15 สิงหาคม 2557

ประวัติพระพุทธรูปปางชนะมาร



พระพุทธชนะมาร
ลิขสิทธิ์เลขที่ 11984 ห้ามไม่ให้ผู้ใดใช้ชื่อ “พระพุทธชนะมาร” และทำเทียมเลียนแบบทุกขนาด       
              

เมื่อครั้งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระบรมศาสดาแห่งศาสนาพุทธ ได้เสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพานแล้ว ณ ตำบลสาลวัน แขวงเมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย บรรดาพุทธบริษัททั้ง หลายในสมัยนั้น ก็พากันโศกเศร้าเสียใจในพระองค์ เหล่ามัลลกษัตริย์ซึ่งครองเมืองกุสินาราในขณะ นั้นก็ช่วยกันจัดงานถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เมื่อเสร็จจากการถวายพระเพลิงแล้ว เหล่ามัลล กษัตริย์ก็ร่วมกันคิดจะสร้างพระสถูปเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมธาตุไว้ ณ เมืองกุสินารา แต่เหล่ากษัตริย์เมืองอื่นๆไม่ยอม ต่างต้องการที่จะเชิญพระบรมธาตุไปให้ผลเมืองของตนเคารพบูชาจนถึงขั้นจะสู้รบเพื่อแย่งพระบรมธาตุกัน จนกระทั่งโทณพราหมณ์ได้เข้ามาไกล่เกลี่ยให้เหล่ามัลลกษัตริย์ปรองดองและแบ่งพระบรมธาตุกัน

เมื่อเหล่ามัลลกษัตริย์ได้รับพระบรมธาตุแล้ว ก็กลับไปสร้างพระสถูปเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในบ้านเมืองของตน จึงเกิดสถูปเจดีย์เป็นรูปเคารพแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่นั้นมา

ตามประพุทธประวัติได้กล่าวถึงตอนที่พระพุทธเจ้าทรงพระประชวร ใกล้จะเสด็จเข้าสู่ปริ นิพพาน พระอานนท์เถรเจ้าผู้เฝ้าถวายการพยาบาลได้ทูลปรารภว่า ที่ผ่านมาเหล่าภิกษุอันเป็นสาวกเคยได้เข้าเฝ้าพระองค์เป็นนิจ เมื่อพระองค์เสด็จเข้าสู่พระนิพพานแล้ว ก็จะมิได้เข้าเฝ้าพระองค์อีก คงจะพากันว้าเหว่เศร้าหมองไปตามๆกัน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงตรัสอนุญาตให้สร้างสังเวชนียสถานไว้ 4 แห่ง เพื่อให้พุทธสาวกที่ใคร่จะเห็นพระองค์ได้ปลงธรรมสังเวช ณ ที่ใดที่หนึ่ง สถานที่ๆเหมาะสมคือ 

1. ณ ป่าลุมพินี แขวงเมืองกบิลพัสดุ์ อันเป็นสถานที่ๆพระองค์ประสูติ 
2. ณ แขวงเมืองคยา สถานที่ๆพระองค์ตรัสรู้ 
3. ณ ตำบลอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี สถานที่ๆพระองค์ประทานปฐมเทศนา 
4. ณ ตำบลสาลวัน แขวงเมืองกุสินารา สถานที่ๆพระองค์เสด็จเข้าสู่พระนิพพาน

นอกจากนี้ยังมีสังเวชนียสถานขึ้นในภายหลังอีก 2 แห่งคือ

5. ณ แขวงเมืองปิบผลิวัน บรรจุพระอังคาร
6. ณ แขวงเมืองกุสินารา บรรจุทะนานโลหะตวงพระบรมธาตุองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ในครั้งแรกพุทธบริษัทที่สร้างสถูปเจดีย์ มิได้มีพระพุทธรูปประดับแต่อย่างใด กระทั่งกาลเวลาผ่านไปหลายปี มีผู้คิดขึ้นมาได้ว่า ต่อไปภายภาคหน้าจะไม่มีใครจดจำพุทธลักษณะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ หากจะแกะสลักหรือปั้นโดยการคาดเดาก็เกรงว่า จะผิดเพี้ยนเป็นการลบหลู่พระบารมีของพระองค์ จึงนิยมสร้างสิ่งสมมุติแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้สักการะบูชา ในรูปแบบต่างๆ เช่นสลักรูปดอกบัวแทนตอนประสูติ สร้างแท่นอาสนะแทนตอนตรัสรู้ สร้างรูปธรรมจักรและกวางหมอบแทนตอนแสดงปฐมเทศนาสร้างสถูปเจดีย์แทนตอนเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน และสร้างลอยพระพุทธบาทเป็นต้น

กาลเวลาผ่านไป 200 ปี พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชได้ยกพลชาวกรีก ออกศึกทำสง ครามขยายอนาเขตไปทั่วทวีบยุโรปมาถึงประเทศอิเดียบางส่วนยังไม่ทันทั่วประเทศ ก็สวรรคตเสีย ก่อน พวกชาวกรีกระดับแม่ทัพนายกองของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ต่างก็ตั้งตัวเป็นเจ้าแผ่นดิน ครองบ้านเมืองหลายอาณาเขต แต่ละอาณาเขตก็ชักชวนชาวกรีกจากภูมิลำเนาเดิมให้มาตั้งต้นทำมาหากินในท้องถิ่นที่ตนสร้างขึ้นใหม่ ส่งผลทำให้ชาวกรีกที่มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินอินเดียด้านตะวันตกเฉียงเหนือ เรียกว่า อาณาเขตคันธารราฐจำนวนมาก 

ในประเทศคันธารราฐ ( ประเทศปากีสถานในปัจจุบัน ) ชาวเมืองส่วนมากนับถือพระพุทธศาสนาสืบมาตั้งแต่ครั้งพระเจ้าอโศกมหาราชเมื่อชาวกรีกมาอาศัยอยู่ในเมืองคันธารราฐมีความสนิท สนมและมีการสมรสกับชาวพื้นเมืองทำให้เลื่อมใสศรัทธาและนับถือพระพุทธศาสนาตามไปด้วย

อยู่มาจนถึงยุคของพระยามิลินท์ ได้บำรุงพระพุทธศาสนาในประเทศคันธารราชให้รุ่งเรืองขึ้นมาก มีการสร้างพระพุทธรูปสำหรับเป็นที่เคารพบูชาขึ้น แรกๆเรียกพระพุทธรูปว่า แบบคันธารราฐ หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีการสร้างพระพุทธรูปตามที่ต่างๆขึ้นมาอีกมากมาย

คติการสร้างพระพุทธรูปทั่วไป จะยึดเอาอิริยาบถที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในพระพุทธประ วัติมาสร้าง โดยเรียกพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นเป็น “ปาง” ในประเทศไทยมีการสร้างพระพุทธรูปขึ้น มามากมายหลายปาง ปางที่นิยมสร้างกันมากคือ ปางสมาธิ ปางสะดุ้งมาร ปางมารวิชัย แต่ปางชนะมารไม่มีผู้ใดสนใจสร้าง 

เพิ่งจะสร้างขึ้นในปี พ.ศ 2521 โดยอาจารย์วัลลภ ธรรมบันดาล มีแรงบันดาลใจมาจากพระพุทธประวัติ วันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มีเรื่องกล่าวไว้ว่า ในครั้งนั้นพระสิทธัตถะรู้ด้วยพระปรีชาญาณว่า พระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมโพธิญาณ พระองค์จึงสระสรงพระวรกายหมดจดแล้วเสด็จไปประทับนั่งยังโคนต้นโพธิ์ วันนั้นเป็นวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ก่อนพุทธศก 45 ปี เวลาเช้านางสุชาดาบุตรีเศรษฐีใหญ่แห่งหมู่บ้านเสนานิคม คิดจะบวงสร้วงเทวดาด้วยการจัดข้าวมธุปายาสไส่ถาดทองนำไปถวายยังโคนต้นโพธิ์ 

เมื่อมาพบเห็นพระสิทธัตถะประทับอยู่ที่โคนต้นโพธิ์ด้วยอาการอันสงบ ก็เกิดความเลื่อม ใสศรัทธาคิดว่าเป็นเทวดา จึงน้อมถาดข้าวมธุปายาสเข้าไปถวาย พระสิทธัตถะทรงรับข้าวมธุปา ยาสนั้นไว้ แล้วเสด็จไปยังท่าน้ำเนรัญชรา ทรงเสวยข้าวมธุปายาสนั้นจนหมด แล้วทรงถือถาดทองลงสู่แม่น้ำแล้วอธิษฐานเสี่ยงพระบารมีว่า ถ้าพระองค์จะได้ตรัสพระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ ขอให้ ถาดทองนี้จงลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไป แล้วก็ทรงลอยถาดทองนั้นลงในแม่น้ำเนรัญชรา

ขณะนั้นด้วยอานุภาพพระบารมีของพระองค์ที่ทรงบำเพ็ญมาบริบูรณ์ดีแล้วได้แสดงให้เห็นอัศจรรย์ ทำให้ถาดทองนั้นลอยทวนกระแสน้ำเนรัญชราขึ้นไปประมาณ 1 เส้น แล้วก็จมลงตรงนาคภพพิมานแห่งพญากาฬนาคราช

ครั้นเวลาเย็นพระสิทธัตถะเสด็จกลับยังโคนต้นโพธิ์ ระหว่างทางเสด็จได้พบกับคนหาบหญ้าชื่อ โสตถิยะ เขาได้เห็นพระอาการอันละมุนละไมของพระสิทธัตถะก็เกิดความเลื่อมใสใคร่จะถวายของ แต่ไม่มีอะไรอื่นนอกจากหญ้าคา จึงน้อมหญ้าคาไปถวาย พระสิทธัตถะทรงรับหญ้าคาแล้วปูลาดเป็นอาสนะแล้วทรงตั้งสัตยาธิฐาน 8 ณ รัตนบัลลังก์ไต้ต้นโพธิ์นั้นว่า แม้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พระองค์จะไม่ยอมลุกจากที่นั่งนั้นจนกว่าจะตรัสรู้ ถึงแม้จะอดตายในที่นั้นก็ยอม เหล่าเทพยดาได้ยินสัตยาธิษฐานก็พากันชื่นชมโสมนัสยินดีปรีดา พากันมาเฝ้ารอพระมหาบุรุษเพื่อที่จะได้สักการบูชา หากพระองค์ตรัสรู้

ฝ่ายพญาวัสวดีมาราธิราชพญามาร ได้ยินมหาบุรุษตั้งสัตยาธิฐานก็อิจฉา กลัวเจ้าชายสิทธัตถะจะตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณพ้นจากอำนาจของตน จึงป่าวประกาศเรียกพลเสนามารนำสรรพอาวุธยกทัพเข้าขัดขวางการบำเพ็ญบารมี

เมื่อพญามารมาถึงก็สั่งให้เหล่าเสนามารห้อมล้อมพร้อมทั้งประกาศศักดานุภาพของตน ให้พระมหาบุรุษสะดุ้งตกใจกลัว ครั้นเมื่อไม่เห็นพระองค์ทรงหวั่นไหว จึงสั่งให้หมู่เสนามารบุกรุกเข้าทำร้ายด้วยการพุ่งสรรพอาวุธเข้าใส่ แต่สรรพอาวุธทั้งหลายไม่อาจทำอันตรายใดๆ กลับกลาย เป็นบุปผามาลัยมาบูชาพระสิทธัตถะแทน

เมื่อพญามารไม่อาจทำร้ายพระองค์ได้ จึงกล่าวว่า ดูก่อนสิทธัตถะ บัลลังก์นี้เกิดขึ้นด้วยบุญของเรา ท่านเป็นผู้ไม่มีบุญสมควรจะนั่ง จงลุกไปเสีย

พระมหาบุรุษตรัสตอบว่า ดูก่อนพญามาร บัลลังก์นี้เกิดขึ้นด้วยบุญที่เราได้บำเพ็ญมานานนับประมาณหามิได้ เราผู้เดียวเท่านั้นที่สมควรจะนั่ง

พญามารกล่าวคัดค้านว่า ท่านกล่าวคำไม่เป็นจริง ท่านมีใครเป็นพยาน

พระมหาบุรุษทรงดำริในใจว่า ในที่นี้มีแต่เสนามาร ไม่มีใครหาญกล้ามาเป็นพยานได้ จึงตั้งสัตยาธิฐานว่า ดูก่อนแม่นางธรณีเอ๋ย เธอจงมาเป็นพยานในการบำเพ็ญกุศลของเราในกาลบัดนี้เถิด

พระนางวสุนธราเจ้าแม่ธรณีไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ต่อไปได้จึงแทรกปฐพีขึ้นมาปรากฏกายทำอัญ ชลีอภิวาทพระมหาบุรุษแล้วประกาศให้พญามารทราบว่า พระมหาบุรุษเมื่อครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ ได้บำเพ็ญบุญมามากมายตลอดกาลเหลือที่จะประมาณได้ แม้แต่น้ำกรวดที่หลั่งลงบนมวยผมข้าพ เจ้าก็เหลือที่จะคณานับ กล่าวจบก็ปล่อยมวยผมบีบน้ำที่พระมหาบุรุษกรวดสะสมไว้ในอดีตเป็นอเนกชาติให้หลั่งไหลออกมามากมายกลายเป็นทะเลหลวงกระแสน้ำพัดพาเอาพญามารและหมู่เสนามารลอยไปสุดขอบฟ้าจักรวาล พญามารตกตะลึงด้วยความอัศจรรย์ใจ ด้วยความกลัวภัย พนมมือนมัสการเปล่งคำสรรเสริญในบุญบารมียอมรับความปราชัย แล้วรีบอันตรธานหนีหายไปจากที่นั้นโดยรวดเร็ว

เมื่อพระมหาบุรุษทรงกำจัดมารและหมู่เสนามารให้ปราชัยไปด้วยพระบารมีแล้ว ก็ทำให้พระองค์เบิกบานพระทัยได้ปิติเป็นกำลังภายในสนับสนุนเพิ่มพูนแรงปฏิบัติธรรมภาวนามากขึ้นดัง นั้นพระองค์จึงมิได้ปล่อยให้เสียเวลา ทรงตั้งพระทัยเจริญภาวนาสมาธิจนจิตแน่วแน่ปราศจากอุปกิ เลส จิตสุขุมโดยลำดับและตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุธเจ้าในที่สุด ดังมีเรื่องราวให้ศึกษาในหนังสือพระพุทธประวัติและภาพจิตกรรมฝาผนังตามวัดและตามถ้ำต่างๆ

จากพุทธตำนานดังกล่าวนี้ทำให้เชื่อได้ว่าบารมีของพระพุทธเจ้าและบารมีของพระแม่ธรณีที่สามารถเอาชนะพญามารและหมู่เสนามารมาได้นั้น จะช่วยทำให้ผู้ที่มีไว้กราบไหว้บูชาเป็นประจำทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง มีโชค มีลาภ มีความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา และชนะมาร ชนะอุปสรรค ชนะศัตรูคู่แข่งชนะวิบากกรรมทำให้เรื่องที่ร้ายๆกลับกลายเป็นดีขึ้นได้ ดุจเดียวกันกับหญ้าคาที่โสต ถิยะถวายแก่พระสิทธัตถะที่แสดงอัศจรรย์ขุดลากถอนโคนและเผาไม่ตายมาถึงทุกวันนี้ สังเกตุไหมหญ้าคาเผาเท่าไหร่ๆก็ไม่ตาย เวลาพระท่านปลุกเสกวัตุถุมงคลท่านจะนำหญ้าคามาปูลองนั่งเพื่อเพิ่มความขังและความศักดิ์สิทธิ์ทุกครั้ง 

โดยเฉพาะคนที่เคยทำแท้ง อาจารย์วัลลภท่านบอกว่า ถ้าใครสร้างพระพุทธรูปปางชนะมารถวายวัดอุทิศให้กับวิญญาณใด วิญญาณนั้นจะอโหสิกรรมให้

เรื่องของกรรมและวิบากกรรมจะคิดว่าไม่สำคัญคงไม่ได้ ถึงแม้ปัจจุบันโลกจะพัฒนาการทางด้านวิทยาศาสตร์ให้ก้าวหน้าไปได้ไกลถึงต่างดาวและย่อโลกให้เล็กลงได้แล้วก็ตาม แต่มนุษย์ก็ยังไม่สามารถที่จะพัฒนาการทางด้านชีวิตให้หนีพ้นจากกฎแห่งกรรมไปได้ ใครทำกรรมใดไว้ ก็ยัง คงต้องได้รับผลของกรรมและวิบากกรรมนั้นเป็นสิ่งตอบแทนเสมอ ไม่ว่าบุคคลคนนั้นจะเป็นคุณ หญิงคุณนาย ไฮโซ - โลโซ อย่างไร เมื่อทำกรรมใดไว้ก็ต้องได้รับผลกรรมนั้นตอบสนองเหมือน กันหมด ไม่ยกเว้นแม้แต่ชาวต่างชาติ จะมีผิดกันบ้างก็ตรงที่ใครจะได้รับผลของกรรมและวิบากกรรมนั้นช้าหรือเร็วกว่ากันเท่านั้น

โดยเฉพาะผลกรรมที่เกิดจากการทำแท้งนั้น ให้โทษร้ายแรงทันตาเห็น ไม่ต้องรอไปถึงภพหน้าหรือชาติไหนๆในชาตินี้ก็สามารถทำให้ผู้ที่ทำแท้งมีอันเป็นไปต่างๆนานาได้ อย่างเช่น ทำให้ทำมาหากินไม่ขึ้น เก็บเงินเก็บทองไม่อยู่ ครอบครัวแตกแยก มีสุขภาพเจ็บป่วยเป็นประจำ บางรายถึงกับทำให้ล้มละลายหมดเนื้อหมดตัว หรือไม่ก็ทำให้มีบุตรพิกลพิกาลไปก็มี

และผลของกรรมและวิบากกรรมที่เกิดจากการทำแท้งนั้น ไม่ใช่จะให้โทษแต่เฉพาะผู้เป็นแม่ที่ไปทำแท้งเท่านั้น ยังมีผลไปถึงผู้ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ หรือบังคับให้คนไปทำแท้งอีกด้วย หากใครไม่เชื่อก็ลองไปดูตัวอย่างจากคนที่เคยทำแท้งหรือแท้งเองมาแล้วก็ได้ ดูสิว่ามีใครไม่ได้ รับผลกรรมและวิบากกรรมดังกล่าวนั้นมาบ้าง

วิธีที่จะทำให้วิญญาณของลูกที่ถูกทำแท้งและวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้เร็ว ๆ ก็คือการสร้างพระพุทธรูปปางชนะมารถวายวัดอุทิศให้กับวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรนั้นไป สาเหตุที่เลือกสร้างกันแต่เฉพาะพระพุทธรูปปางชนะมาร เพราะเห็นว่าวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรนั้นเปรียบ เสมือนมารของคนเราเหมือนกัน ดังนั้นการสร้างพระพุทธรูปถวายวัดเพื่อเอาชนะมารให้ได้ผลจึงเลือกสร้างกันแต่เฉพาะพระพุทธรูปปางชนะมารดังกล่าว การสร้างพระพุทธรูปปางชนะมารถวายวัดนำทางให้ดวงวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรไปผุดไปเกิด ได้แรงบันดาลใจและเหตุผลมาจากการที่คนนำศพจากโรงพยาบาลไปวัดต้องนิมนต์พระสงฆ์นำทาง หรือแม้แต่การนำศพจากบ้านไปวัดก็ต้องนิมนต์พระสงฆ์นำทาง รวมถึงการนำศพขึ้นเมรุเผา ก็ยังต้องนิมนต์พระสงฆ์องค์เณรเดินนำหน้าศพก่อนเผาเสมอ การสร้างพระพุทธรูปปางชนะมารถวายวัดก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน

จากพุทธตำนานดังกล่าว อาจารย์วัลลภ ธรรมบันดาล และคณะกรรมการมูลนิธิธรรมบันดาล มีความเห็นตรงกันว่า ถ้าปล่อยให้พระพุทธประวัติตอนที่พระพุทธเจ้าเมื่อครั้งที่ยังเป็นพระสิท ธัตถะผจญมารมีอยู่แต่ในหนังสือหรือภาพจิตรกรรมฝาผนังตามถ้ำตามวัดต่างๆอย่างนั้นต่อไป พุทธ ศาสนิกชนทั่วไป ก็จะไม่มีโอกาสได้กราบไหว้บูชา และเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้กว้างขวางออกไปได้ จึงพร้อมใจกันจัดสร้างพระพุทธรูปปางชนะมาร ให้เป็นพระประธานประจำวัดธรรมบันดาล พร้อมทั้งจดลิขสิทธิ์เลขที่ 11984 ให้เป็นของวัดธรรมบันดาลและมูลนิธิธรรมบันดาลไปพร้อมกัน ห้ามไม่ให้ผู้ใดใช้ชื่อพระพุทธชนะมาร และลอกเลียนแบบทุกขนาดโดยเด็ดขาด



พระพุทธชนะมาร



เหรียญชัยชนะมาร  รุ่นเฉลิมพระเกียรติ ร ๙



เหรียญชัยชนะมาร



         แม่โพสพ                                      พระพุทธชนะมาร



พระพุทธชนะมาร



แม่โพสพ ธรรมบันดาล 




แม่นางกวัก ธรรมบันดาล