- กลุ่มเนื้อละเอียดปนเนื้อหยาบแก่ว่าน
- กลุ่มเนื้อหยาบคล้ายพระผุ มองเห็นมวลสารต่างๆได้ชัดเจน ดูแล้วไม่สวยงามนัก
- กลุ่มเนื้อแก่แร่ เนื้อพระชนิดนี้จะปรากฏมวลสารเม็ดใหญ่ๆโผล่ขึ้นมาให้เห็นชัดเจน
พระนางพญาสร้างครั้งแรกจะมีลักษณะแข็งๆ  คือพระพักตร์ ไม่มีตา จมูก ปาก เพราะแกะแม่พิมพ์โดยช่างฟีมือระดับชาวบ้าน  สร้างครั้งที่สองในยุคขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช บางพิมพ์จะมีรูปทรงและรายละเอียดพระพักตร์สวยงามมากขึ้นคือ  มีตา  จมูก  ปาก   เพราะได้นำช่างหลวงมาช่วยแกะแม่พิมพ์ 
ดังภาพถ่ายที่นำมาขยายใหญ่ให้ผู้ที่สนใจได้ดูกันเป็นบุญตา ถ้าจะดูกันให้เห็น ชัดเจนกว่านี้  ก็นำเอากล้องถ่ายรูปที่มีคุณภาพสูงๆมาถ่าย  แล้วนำไปโหลดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ( ขยายดู  ) 
ถ้าใครยังพูดว่าพระที่นำมาให้ดูเป็นตัวอย่างนี้เป็นพระใหม่  พระเก๊  พระปลอม พระผิดพิมพ์  ก็ถามเขาด้วยว่า  วัดนางพญามีการสร้างพระเครื่องกันมา แล้ว  กี่ครั้ง  กี่หน  เปลี่ยนเจ้าอาวาส  เปลี่ยนพระเกจิอาจารย์มาแล้วกี่รูป 
ในปัจจุบันเจ้าอาวาสตลอดทั้งพระเณร  และคนที่มาอาศัยอยู่ในวัดนาง พญา ล้วนเป็นคนต่างถิ่นมาบวชและมาอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งนั้น ข้อมูลที่เกี่ยวกับพระนางพญายุคเก่าๆ  สอบถามแล้วไม่มีใครรู้เรื่องกันเลย  คนพื้นที่ดั่งเดิมที่อาศัยอยู่ใกล้วัดก็เหลืออยู่ไม่กี่คน  บางท่านบอกว่าเกิดมายังไม่เคยเห็นพระนาง พญาแท้ๆ เลยก็มี 
ปัญหาที่พบบ่อยคือ  เวลามีคนนำพระนางพญาที่ได้รับจากพ่อแม่ปู่ย่าตายายไปให้ผู้ที่อ้างตัวเป็นเซียนดู   ก็มักจะได้รับคำอธิบายบอกว่า  เป็นพระใหม่ พระเก๊  พระปลอม  พระผิดพิมพ์  ทุกครั้ง  ไม่มีใครอธิบายให้ชัดเจน  ว่าพระเก๊  ( เก๊ยุคไหน )  พระปลอม  ( ปลอมยุคไหน )  พระผิดพิมพ์  (  ผิดพิมพ์ของใคร ) เป็นคำกล่าวกว้างๆ ของคนรับซื้อและให้เช่าพระเครื่องใหม่ๆยุคปัจจุบัน ซึ่งไม่มีความถนัดในการดูพระกรุและพระเก่าอะไร 
พระนางพญายุคขององค์พระวิสุทธิกษัตรีย์  และยุคขององค์สมเด็จพระ นเรศวรมหาราช  มีทั้งพิมพ์หนา พิมพ์กลาง พิมพ์บาง เล็กสุดพิมพ์สังฆาฏิ ต่าง กันตรงที่ พระนางพญาสร้างในยุคขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีขนาดเล็กกว่า  พระนางพญาที่สร้างในยุคขององค์พระวิสุทธิกษัตรีย์เล็กน้อย 
ขอย้ำพระนางพญา  เป็นพระในตำนานประวัติศาสตร์ชาติไทยนอกตำ รา ที่จัดสร้างขึ้นจำนวนมาก  หลายพิมพ์  หลายขนาด  หลายสี ไม่มีการจดบัน ทึก ไม่มีตำราเรียนสืบทอดต่อกันมา ยากแก่การจดจำ อีกทั้งไม่มีหลักฐานและข้อมูลอื่นใดที่จะยืนยันได้ว่า  พระแท้กับพระไม่แท้ต่างกันอย่างไร สมาคมและผู้เชี่ยวชาญในการดูพระเครื่องหรือเซียนยุคปัจจุบัน  ก็ไม่สามารถหาหลักฐานและเหตุผลอื่นใดมาสรุปได้ ว่าพระแท้หรือไม่แท้ เพราะไม่มีใครเกิดทัน  จะไปเอาข้อมูลและหลักฐานมาจากไหน   นอกจากประวัติการสร้างที่คนรุ่น   ปู่ย่าตาทวด  ท่านจดบันทึกสืบทอดต่อกันมา  และร่องรอยความเก่าแก่ทางธรรมชาติที่ผ่านกาลเวลามานานนับร้อยปีเท่านั้น ที่จะการันตีได้ว่าพระแท้หรือไม่แท้ 
พระของใครจริง  พระของใครปลอม คนจ่ายเงินเท่านั้น ที่จะต้องเป็นคนใช้วิจารณญาณ   ในการตัดสินใจกันเอง  ว่าจะเชื่อเหตุผลจากบุคคลที่เกิดในยุคเดียวกัน  หรือจะเชื่อร่องรอยความเก่าแก่ทางธรรมชาติ  ที่ผ่านกาลเวลามานานนับร้อยปี 
ส่วนมากพอไปดูพระนางพญาที่เขายืนยันการันตี ว่าเป็นพระแท้ของจริง  แม้แต่คนที่ดูพระไม่เป็นก็ยังรู้ว่า  พระเก๊ พระปลอม พระใหม่  เพราะไม่มีหลัก ฐานความเก่าแก่อะไรหลงเหลือไว้ให้ดูเลย บางองค์ด้านหน้ามีรอยสึกกร่อนจน จำหน้าแทบไม่ได้ แต่พอพลิกไปดูด้านหลังกลับมีลอยนิ้วมือปรากฏชัดเจนเป็นต้น ถามว่าเวลาคนแขวนสร้อยห้อยพระเครื่อง   ด้านไหนถูไถไปมากับหน้าอกมากกว่ากัน  สมัยโบราณยังไม่มีการใส่กรอบมิดชิดเหมือนปัจจุบัน
พระนางพญาของแท้  เปรียบเสมือน  ( เพชรแท้ )  พระนางพญาปลอมเปรียบเสมือนเม็ดทราย  เมื่อเจอพระเก๊ พระปลอมอย่าเพิ่งท้อ  พระแท้ของจริงยังมีอยู่  สมควรยิ่งที่จะหามาเก็บสะสมไว้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน ยิ่งนานวันก็ยิ่งหายากและเป็นที่ต้องการมากขึ้น
ปกตินักนิยมสะสมของเก่าทั่วไป    จะอนุรักษ์ร่องรอยความเก่าแก่ทางธรรมชาติไว้ให้อยู่ในสภาพเดิม ๆ จะไม่ทำลายหลักฐานความเก่าแก่ตามกาลเว ลาที่ผ่านมาทิ้งไปโดยเด็ดขาด ถ้าเป็นพระเครื่องก็ยิ่งจะรักษาสภาพความเก่าแก่ไว้เป็นหลักฐานในการสร้างไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปทำลายทิ้ง นอกเสียจากจะ พยายามทำปลอมกันขึ้นมาใหม่   แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถทำเลียนแบบความเก่าแก่ตามธรรมชาติที่ผ่านกาลเวลามานานนับร้อยปีได้  ถ้าใช้เหตุผลทางธรรม ชาติและประวัติการสร้างเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย    ก็จะช่วยให้การตัดสินใจหาพระนางพญาแท้ไว้ครอบครองได้มั่นใจมากยิ่งขึ้น 
การมุ่งดูพิมพ์หรือดูรูปทรงขององค์พระเครื่องเหมือนสมัยโบราณ  มีโอ กาสถูกหลอกได้ง่าย   เพราะแม่พิมพ์และรูปทรงขององค์พระสามารถใช้   ( เรซิ่นหรือไฟเบอร์กล๊าส ) ทำปลอมกันได้ง่ายมาก  แต่จะทำเทียมเลียนแบบความเก่าแก่ตามธรรมชาติที่ผ่านกาลเวลามานานๆนั้น ทำไม่ได้แน่นอน

